ค้นหาหนัง

Air Force One ผ่านาทีวิกฤติกู้โลก

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น
Air Force One ผ่านาทีวิกฤติกู้โลก
เรื่องย่อ : Air Force One ผ่านาทีวิกฤติกู้โลก

กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ทำการยึดเครื่องบินส่วนตัวของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พวกเขาเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้นำเผด็จการที่สร้างปัญหาและความวุ่นวายให้กับประเทศรัสเซีย กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้จับตัวลูกชายและภรรยาของประธานาธิบดีสหรัฐไว้เป็นตัวประกัน ประธานาธิบดีจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร และเขาจะสามารถช่วยครอบครัว รวมทั้งทุกคนที่อยู่บนเครื่องบินจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ได้หรือไม่?

IMDB : tt0118571

คะแนน : 6



อีกหนึ่งผลงานมันส์ของผู้กำกับ Wolfgang Petersen เจ้าเดียวกับหนังมันส์ๆ อีกหลายเรื่อง เช่น Das Boot, In the Line of Fire, Outbreak และ The Perfect Storm

Air Force One คือชื่อเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกานะครับ ไปไหนมาไหนก็ใช้เครื่องนี้ไป และในเรื่องคนที่มาเป็นประธานาธิบดีก็คือ เจมส์ มาร์แชลล์ (ลุง Ford) ที่เพิ่งเสร็จงานแถลงการในรัสเซียหมาดๆ ก็ต้องขึ้นเครื่องไปทำภารกิจอื่นๆ ต่อ

แต่แล้วจู่ๆ ก็มีพวกผู้ก่อการร้ายนำโดย ไอวาน กอร์ชูนอฟ (Gary Oldman) ขึ้นมาทำการยึดเครื่องบินลำนี้ และจับเอาตัวลูกเมียพร้อมด้วยลูกเรืออีก 50 ชีวิตเป็นตัวประกัน พร้อมทั้งขู่ให้ท่านปธน.ยอมทำตามข้อเรียกร้อง ปล่อยนายพลไอแวน ราเด็ค (Jurgen Prochnow) ผู้นำเผด็จการรัสเซียที่เพิ่งโดนโค่นโดยปฏิบัติการลับของอเมริกัน และถ้าไม่ทำตาม ตัวประกันจะโดนสังหารทีละคนๆ

ส่วนปธน. ซึ่งยังอยู่บนเครื่องก็เลยต้องซุ่มหาทางยึดเครื่องบินคืนมา ช่วยลูกเมียและหาทางยับยั้งแผนการปล่อยราเด็คอีกต่างหาก แต่จะทำสำเร็จมั้ยนี่คงไม่ต้องพูดมากล่ะนะครับ

นี่ก็ถือเป็นหนังโปรอเมริกาอีกเรื่องเน้อะ เชิดชูปธน. เชิดชูอะไรอีกหลายๆ อย่าง ดนตรียังให้อารมณ์รักชาติเลยครับ บางคนเลยอาจจะหมั่นไส้บ้าง แต่ผมก็ไม่สนอะไรนักหรอกครับ หนังทำออกมาสนุกดูเพลินก็เกินพอแล้ว และผลก็ออกมาดีอย่างนั้นซะด้วยล่ะสิครับ

หนังถือว่าเป็นการยำเอาหนังแนวผู้ก่อการร้ายกับแนวหายนะบนเครื่องบินมาผสมกัน แล้วก็ดึงแต่จุดดีมา หนังเลยมีโครงแข็งแรงมาก ไม่ว่าจะฉากแอ๊คชั่น การเอาชีวิตคนมาเล่น เรื่องระทึกบนเครื่องทั้งหลาย ระเบิด เรื่องน้ำมันจะหมดหรือเรื่องเครื่องลงไม่ได้ ใส่มาตลอดครับ ความระทึกเลยไหลมาเทมา แล้วยังได้ทีมดารามือพระกาฬมาอีก มันเลยเพลิดเพลินสุดๆ มันส์อย่างยิ่งกันเลยล่ะฮะ

ล่าสุดผมเพิ่งได้ดูหนัง Firewall ของลุงแกไปน่ะนะครับ ก็ให้ต่างกันในหลายอย่าง ทั้งอารมณ์ความตื่นเต้น จังหวะหนัง แอ๊คชั่น และความชราของลุงเขาอีกด้วย ใน Firewall นั้นไม่บีบเค้น ชีวิตผู้บริสุทธิ์ก็ไม่ค่อยเอาไปเล่นเท่าไหร่ ตัวร้ายแม้จะโหดพอประมาณแต่รัศมีอำมหิตกับความฉลาดไม่ค่อยมากเท่าไหร่ และลูกน้องก็ยังละอ่อนอีกด้วย ตัวหนังเลยดูเอื่อยๆ เรื่อยๆ ครับ ไม่เร้าไม่ตื่นเต้น เพราะไม่รู้จะลุ้นอะไรครับ มันไม่ทำให้เรารู้สึกว่าพระเอกหมดหวังเท่าไหร่

แต่กับเรื่องนี้ หนังมีดีตั้งแต่ตัวผู้ร้ายที่ดูโหดทั้งกลุ่ม และไม่ได้โหดแบบเหี้ยมอย่างเดียว อย่างไอวานน่ะครับ แกเป็นผู้ร้ายด้วยอุดมการณ์ ทำเพื่อผู้นำตน จะว่ารักชาติก็ใช่น่ะครับ แต่ขณะเดียวกันทางที่จะนำเอาผู้นำคืนมาก็โหดด้วย มันก็จะออกจะเป็นการรักชาติที่ไม่รักเพื่อนมนุษย์ไปหน่อย เราเลยทำใจเชื่อได้ไม่ยากว่าแกเป็นผู้ร้าย แต่ก็เป็นผู้ร้ายที่ไม่ใช่ไร้มิติซะทีเดียว แล้วยังได้ Oldman มาสวมบทเข้าไปอีก ก็หายห่วงล่ะครับ พี่แกเลยร้าย แต่แววตานี่ไม่ได้มีแต่ฆ่าๆๆๆ เขายังรักชาติด้วย แต่ผิดทางไปหน่อยครับ

ฮ่า และจุดที่สะใจอีกอย่างคือในที่สุด ลุง Ford ของผมก็ได้เป็นประธานาธิบดีซะที ซึ่งผมเล็งมานานแล้วล่ะครับ อยากให้แกเป็นเพราะแกดูดี เท่ห์ องอาจสมชาย ปกป้องทุกคนได้ มีอารมณ์ขัน เป็นผู้นำได้จริงๆ และในที่สุดพอแกมาเล่นก็เป็นไปตามคาดครับ คือ แกเป็น ปธน. ที่ไม่ใช่ ปธน.

อ้า อย่างงครับ คือผมบอกแล้วว่าแกเท่ห์เป็นผู้นำ ปกป้องชาวบ้านได้ แต่ครับ ที่ผมบอกว่าแกไม่ใช่ปธน. ก็เพราะ แกเป็นคนดีเกินไป คือส่วนมากมาดผู้นำเนี่ย เวลาทำอะไรก็จะไม่ต่อรองครับ สั่งลุยแหลกฆ่ายับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกี่ยวกับสถานการณ์แบบนี้แกไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆ คือไม่ได้บอกว่าปธน. จะเป็นคนไม่ดีนะ เพียงแต่มาดผู้นำ ลองดูสิครับ มาดผู้นำอเมริกายุคหลังๆ มาเนี่ย ออกแนวเย็นชา เฉียบขาด แคร์ผลประโยชน์มาก่อนแคร์คนส่วนน้อย ไม่เชื่อดูลองนึกดูใบหน้าจอร์จ บุช แล้วก็คลินตันสิครับ มันให้อารมณ์นั้นจริงๆ นะ แล้วลองเอามาเทียบกับลุง Ford สิครับ … รายหลังดูน่ารักไปเลยว่ามั้ยฮะ หรือนึกถึงดาราที่เคยมาเล่นเป็นประธานาธิบดีคนก่อนๆ อย่าง Jack Nicholson (Mars Attacks!), Michael Douglas (The American President) หรือ Kevin Kline (Dave) แต่ละคนจะดูมีรัศมีแบบอำนาจน่ะครับ แม้แต่ Kline หรือ Douglas จะเป็นประธานาธิบดีที่ดีก็เถอะ แต่เวลาตัดสินใจทำอะไร พี่แกก็เด็ดขาดน่ะครับ

ดังนั้นในเรื่องจริงๆ แล้ว เจมส์ มาร์แชลล์ แม้บทจะบอกว่าเป็นประธานาธิบดี แต่ในใจลึกๆ ผมกลับรู้สึกว่าแกก็ยังเป็นลุง Ford นั่นแหละครับ ดูมีอัธยาศัยดี ให้อารมณ์เป็นนักธุรกิจที่ประสบเคราะห์หามยามร้ายมากกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะภาพลักษณ์ของลุงแกด้วยล่ะ

แต่ยังดีครับ ยังดีที่หนังยังมีในส่วนเสริมเป็นบรรยากาศการทำงานของพวกรัฐมนตรี โดยมีท่านรองประธานาธิบดีอย่างแคธรีน เบนเนทท์ (Glenn Close) นำคอยประสานการช่วยเหลือท่านปธน. อยู่ที่ภาคพื้นดิน ซึ่งต้องบอกว่าเพราะทีมข้างล่างนี่แหละที่คอยขับดันให้ลุง Ford แกดูเป็นประธานาธิบดีขึ้นมาจริงๆ คือลำพังแกคนเดียวล่ะผมก็คงตะหงิดๆ ล่ะครับ แต่นี่ได้ข้างล่างที่แต่ละคนแสดงได้ดีโคตรๆ ดูเป็นนักการเมืองอย่างสมจริง เลยทำให้คนดูพลอยเชื่อไปด้วยว่าคนที่อยู่บนเครื่องน่ะ คือ ปธน.

อันนี้ก็ต้องชมการแสดงชั้นยอดของ Close ล่ะครับ สุดยอดมาก ท่าทางน้ำเสียงนี่เป็นหญิงเหล็กชัดๆ จริงๆ ให้เราเชื่อว่ารองปธน.เป็นผู้หญิงนี่ก็ลำบากแล้วนะครับ แต่นี่เจ๊แกทำได้ แล้วยังสนิทใจด้วย โอ้ ยกนิ้วคารวะเลยครับ

อืมม์ หนังก็มาพร้อมทีมดาราเยี่ยมๆ นะครับ เล่นดีหมดทุกราย พวกสต๊าฟปธน. นี่ตัวประกอบมืออาชีพทั้งนั้น ทั้ง William H. Macy, Paul Guilfoyle หรือ Xander Berkeley ในบท เอเย่นต์กิ๊บส์ ตำรวจลับประจำตัว ปธน. โดยเฉพาะรายหลังนี่นับว่าเหมาะกับบทจริงๆ

จริงครับว่าหนังไม่มีอะไรใหม่ มันเดิมๆ แต่ก็เจ๋งอ้ะ เอาของเดิมๆ มายำกันอย่างดี ให้อารมณ์มันส์ น่าติดตามและตื่นเต้น ซึ่งอันนี้เป็นฝีมือเยี่ยมๆ ของ Wolfgang Petersen ผู้กำกับที่ผมชอบนี่แหละ (เลยไม่เข้าใจกับ Poseidon ไงล่ะครับ) ทำให้เหล้าเก่าอันนี้ อยู่ในขวดใหม่ที่สวยงามดีจริงๆ

ผมชอบนะ สนุกดี ดูได้เพลินๆ และจุดที่เยี่ยมมากๆ ก็คือดนตรีครับ เร้าอารมณ์และชวนฮึกเหิม แต่ขระเดียวกันช่วงอ่อนโยนก็ยังอ่อนโยนแบบฮึกเหิมนี่แหละ เออ เจ๋งจริงๆ ครับ

ถือเป็นหนังแอ็คชั่นเอามันส์ที่ดูได้สนุกครับ ตื่นเต้น ไม่ว่าจะการแสดงหรือการเดินเรื่องที่มีปัญหาอะไรให้แก้ไขกันตลอดเวลา ลุ้นไปตลอดน่ะแหละ มุมกล้องต่างๆ ก็ออกมาดี เชื่องช้าแต่มั่นคงครับ ไม่ได้บิดกล้อง 360 องศาแบบ Michael Bay แต่ก็ออกมาดีน่ะแหละ

หนังมาพร้อมเกร็ดที่น่าสนใจครับ อย่างเช่นแรกเริ่มเดิมทีคนจะมาแสดงเป็นท่านปธน. นั้นคือ Kevin Costner ครับ แต่ตอนนั้นพี่เขาอยากทำ The Postman มากกว่าเลยบอกปัดไป และอีกข่าวหนึ่งที่อาจทำให้หลายคนอึ้งก็คือ John Malkovich ครั้งหนึ่งเคยถูกทาบทามให้มาแสดงเป็นท่าน ปธน. ด้วยครับ (เพราะเขาเคยร่วมงานกับ Petersen มาก่อนใน In the Line of Fire) แต่ในที่สุด Malkovich ก็บอกปัดและหันไปแสดงใน Con Air แทนครับ

ยังมีอีกคนที่ถูกทาบทามให้มาแสดงเป็นท่าน ปธน. ก็คือ Gene Hackman ครับ แต่แล้วเขาก็บอกปัดไปเพราะรู้สึกว่าบทหนังมันดูอ่อนไปหน่อย (แต่เขาก็ได้เป็น ปธน. ใน Absolute Power ครับ)

และในตอนแรกนั้นผู้กำกับ Petersen และทีมงานได้ทำการขออนุญาตไปยังทำเนียบขาวเพื่อขอเข้าชมเครื่อง Air Force One ของจริง เพื่อที่จะได้สร้างเครื่องในหนังให้สมจริงที่สุด แต่พวกเขาก็โดนปฏิเสธครับ จากนั้น Ford ก็รู้เรื่องนี้เข้า เลยยกหูโทรไปที่ทำเนียบขาวอีกครั้งและเป็นผู้เจรจาด้วยตนเอง หลังจากนั้นไม่นานทำเนียบขาวก็อนุมัติครับ

ดูแล้วสะใจในแง่หนึ่งครับ กับบทสรุปของราเด็ค ที่เหมือนจะบอกกับเราเป็นนัยๆ ว่าอำนาจที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม ยังไงมันก็ไม่มีทางจบลงด้วยดี และไม่มีทางที่อำนาจนั้นจะยั่งยืนได้หรอก

เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วมันส์ ไม่ผิดหวังครับ