A Bronx Tale | โค่นถนนสายเจ้าพ่อ
คาโลเจโร (Francis Capra) เด็กชายวัย 9 ขวบ ชื่นชอบซันนี่ (Chazz Palminteri) ที่เป็นมาเฟียประจำท้องถิ่นเป็นอย่างมาก คาโลเจโรบอกกับพ่อว่าซันนี่เป็นคนสำคัญของย่านนี้ ทุกคนต่างก็ให้ความเคารพเขาเปรียบเสมือนเขาเป็นพระเจ้า แต่แล้ววันหนึ่งคาโลเจโรซึ่งชื่นชมซันนี่อยู่แล้วได้เป็นพยานเท็จให้เขา ทำให้เด็กน้อยต้องมาพัวพันกับมาเฟียแก๊งนี้ โดยที่พ่อของเขา Lorenzo (Robert De Niro) ซึ่งเป็นเพียงแค่คนขับรถเมล์ที่ภูมิใจในอาชีพสุจริตของตัวเอง คอยคัดค้านไม่ให้ลูกชายคนเดียวของเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมาเฟียกลุ่มนี้ ส่วนซันนี่ถึงแม้จะพาคาโลเจโรมาเกี่ยวข้องกับแก๊งมาเฟีย แต่เขาก็สอนแต่สิ่งดีๆ ดูแลเหมือนลูกชายคนหนึ่ง และไม่ให้โตเป็นมาเฟียแบบเขา
IMDB : tt0106489
คะแนน : 9
เราอาจจะคุ้นเคยชื่อของโรเบิร์ต เด นีโรในฐานะนักแสดงที่มักจะรับบทเป็นมาเฟีย เป็นเจ้าพ่อ แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยว่าเขากำกับหนังมาแล้ว 2 เรื่องคือ A Bronx Tale (หนังมาเฟียธีมพ่อลูก) และ The Good Shepherd (หนังสายลับธีมสมจริงน่าเชื่อถือ) ตัวผมเองเปิดประวัติเด นีโรใน IMDb ก็บ่อยยังไม่เคยผ่านตาชื่อ A Bronx Tale เลยครับ เพิ่งมารู้จักและอยากดูก็เพราะเห็นว่าคะแนนวิจารณ์ใน Metacritic เฉลี่ยสูงถึง 80/100
A Bronx Tale เป็นหนังลูกครึ่งครับ ครึ่งหนึ่งของหนังเป็นแนว gangster ประเภทนั่งดูการเติบโตของเด็กคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับมาเฟียท้องถิ่น แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งมันเหมือนเป็นหนัง coming of age ที่ได้เห็นเด็กคนหนึ่งในวัย 9 ปี และ 17 ปีค่อย ๆ เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากสังคมและคนรอบตัว
คาโลเจโร (วัย 9 ปีแสดงโดย Francis Capra และวัย 17 ปีแสดงโดย Lillo Brancato) ชื่นชมซันนี่ (Chazz Palminteri) มาเฟียประจำท้องถิ่นเป็นอย่างมาก คาโลเจโรบรรยายว่าเขาเป็นคนสำคัญของย่านนั้น ทุกคนให้ความเคารพเขาเปรียบเสมือนพระเจ้า แล้ววันหนึ่งคาโลเจโรได้เป็นพยานเท็จให้ซันนี่ ทำให้เด็กน้อยวัย 9 ปีกลายเป็นส่วนหนึ่งของมาเฟียแก๊งนี้ โดยที่พ่อของเขา (Robert De Niro) ซึ่งเป็นเพียงคนขับรถเมล์ที่ภูมิใจในอาชีพสุจริตคอยคัดค้านไม่ให้ลูกชายคนเดียวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมาเฟียกลุ่มนี้
แง่มุมที่ผมชื่นชม A Bronx Tale คือมันเป็นหนัง coming of age เล่าชีวิตเด็กคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างพ่อกับมาเฟียที่ดูแลเขาอย่างดี คนเป็นพ่อมีอาชีพสุจริตเป็นคนขับรถเมล์รายได้พอเลี้ยงชีพ แม้จะได้โอกาสทำงานรายได้ดีกับกลุ่มมาเฟีย เขาก็ปฏิเสธที่จะเกี่ยวข้องกับเงินสกปรก และเขาก็สอนลูกแบบนั้นจนถึงขั้นไม่คุยกับซันนี่อีกเลย ในขณะที่ซันนี่แม้จะพาคาโลเจโรเข้ามาเกี่ยวข้องกับเงินสกปรกแต่เขาก็สอนแต่สิ่งดี ๆ ดูแลเหมือนเป็นลูกชายคนหนึ่ง คอยสอนปลูกฝูงทัศนคติดี ๆ และไม่ให้มายุ่งเกี่ยวเติบโตเป็นอันธพาลแบบเขา สิ่งที่เราต้องมาดูก็คือเด็กที่เติบโตระหว่างคำสอนจากคนเป็นพ่อที่ฐานะไม่ดีแต่สุจริต กับคำสอนของมาเฟียที่คอยสร้างทัศนคติใหม่ ๆ ให้เขา เด็กคนหนึ่งจะเติบโตและไปจบที่ตรงไหน
พอมองในมุมของหนัง gangster มันก็ไม่ถึงกับเป็นหนังมาเฟียเต็มตัวสักเท่าไร เป็นหนังมาเฟียที่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับตำรวจและสิ่งผิดกฎหมายอย่างที่หนังมาเฟียเรื่องอื่นนิยมกัน ออกแนวใช้เรื่องมาเฟียเพื่อขับธีมการเติบโตของคาโลเจโรเสียมากกว่า จะมีโดดเด่นหน่อยก็เรื่องระหว่างวัยรุ่นห่าม ๆ ย่านคนผิวขาวกับวัยรุ่นผิวดำอันธพาลต่างถิ่นบ้าง ส่วนนอกนั้นก็แนวมาเฟียอาชญากรรมต่อยตีการพนันทั่วไปไม่ถึงกับค้ายาไล่ฆ่าพวกนั้นครับ
อาจจะด้วยก่อนหน้านี้เด นีโรเล่นหนังมาเฟียมาเยอะ แล้วเขาก็อยากเล่าอะไรบางอย่างที่หนังมาเฟียเรื่องอื่นยังไม่เคยตอบโจทย์ตรงนี้ (หรือมีแต่ผมยังไม่เคยดูเอง ฮ่า ๆ) ผมเลยรู้สึกว่าการเล่ามุมนี้มันแปลกใหม่ดีเหมือนกัน เป็นความใหม่ที่น่าสนใจด้วย ทั้งบทหนังดัดแปลงจากละครเวทีที่ลงตัว และการกำกับหนังครั้งแรกของเด นีโรที่อาจจะชั้นเชิงไม่มากแต่ก็พอให้สอบผ่านสบาย ๆ
ใครที่เป็นแฟนหนัง gangster เป็นแฟนหนังดราม่าพ่อลูก หรือชอบหนัง coming of age ผมก็ขอแนะนำให้ลองมาสัมผัส A Bronx Tale ครับ เป็นการเปิดตัวกำกับหนังครั้งแรกของเด นีโรที่สวยงามจริง ๆ