ค้นหาหนัง

3:10 to Yuma

3:10 to Yuma
เรื่องย่อ : 3:10 to Yuma

แดน อีวานส์ (คริสเตียน เบล) มุ่งหน้าเข้าสู่บีสบี เพื่อจัดการกับผลประโยชน์เกี่ยวกับที่ดินของเขา เมื่อเขาเป็นผู้รู้เห็นอย่างใกล้ชิดกับการปล้นรถม้า นำโดย เบน เวด (รัสเซล โครว์) จากนั้นไม่นาน เบนถูกจับในบีสบี และแดนเป็นหนึ่งในผู้คุ้มกัน ซึ่งต้องนำเบนไปยังสถานีรถไฟยูม่า เพื่อรับเงินรางวัลมูลค่า 200 เหรียญสหรัฐ หน้าที่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการรักษาผืนดินของ แดนเท่านั้น แต่เขายังต้องการพิสูจน์ว่า ตัวเองเป็นได้มากกว่าคนเลี้ยงสัตว์ ในสายตาของวิลเลี่ยม อีวานส์ (โลแกน เลอแมน) ลูกชายของเขา การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตราย ทั้งจากการซุ่มโจมตีของพวกอินเดียนแดง การไล่ล่าโดยลูกน้องของเบน และพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้ใจของเบน ก็ทำให้การเดินทางทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

IMDB : tt0381849

คะแนน : 7



หนังเรื่องนี้เอามาดูแล้วดูอีกหลายรอบมาก ถือเป็นหนังตะวันตกเข้มข้นที่หากคอหนังแนวนี้พลาดไปล่ะก็ จะถือเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรงทีเดียว

พล็อตมาเต็มเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรีบนทางปืนครับ Christian Bale รับบท แดน อีแวนส์ ผู้มีอาชีพรับจ้างและกำลังต้องการเงินมาเพื่อรักษาที่ดินที่ครอบครัวของอาศัยอยู่ แล้วเขาก็ตัดสินใจหาเงินโดยร่วมมือกับทางการ วางแผนจับโจรตัวฉกาจนามว่า เบน เวด (Russell Crowe) ซึ่งเขาจะได้เงินทันทีที่พาตัวเบนไปส่งถึงรถไฟ

แต่เบนเองก็ไม่ใช่ธรรมดาครับ ขณะเดียวกันลูกน้องของเบนก็ตามมาทวงตัวหัวหน้าคืน

ช่วงต้นอาจจะดูเรื่อยๆ ครับ เพราะเป็นการปูพื้นให้รู้จักตัว ละครต่างๆ อาจต้องทำใจสักนิด แต่พอผ่านไปสัก 30 นาที หรือถ้าพูดให้ชัดก็คือ เมื่อ Bale เริ่มเฉือนฝีมือกับ Crowe ความน่าติดตามก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ คือหนังทั้งเรื่องโคตรน่าติดตามเพราะ 2 คนมาเฉือนคมกันน่ะครับ

และยิ่งเวลาผ่านไป ความลุ้นก็เพิ่มขึ้นๆ จนตอนท้ายนี่ถือเป็นของเด็ดที่เข้มทั้งในเชิงแอ็กชันแบบตะวันตกและข้นในเชิงดราม่าไปในเวลาเดียวกัน

จุดที่ผมชอบมากๆ คือ Bale และ Crowe ตีบทแตก Bale นี่เป็นคนดีคนซื่อแต่ไม่โง่ ฉลาดทันคน เพียงแต่เขาไม่ค่อยแสดงออก ในขณะที่ Crowe ก็สวมบทจอมโจรที่เด็ดขาด ฉลาดเป็นกรด แล้วทั้งคู่ก็เฉือนฝีมือกันตลอดไม่ว่าจะแววตา ท่าทาง บทพูด ฯลฯ

จนตอนท้ายนี่ผมไม่อยากให้ใครต้องตายทั้งนั้นน่ะ เพราะมันเท่ห์ทั้งคู่ ดูเป็นพระเอกทั้งคู่ ดูมีอุดมการณ์ทั้งคู่ เพียงแต่ยืนอยู่คนละฝั่งของกฎหมาย และประสบการณ์หล่อหลอมชีวิตมาต่างกันเท่านั้นเอง

เป็นหนังตะวันตกที่ทำออกมาครบเครื่องและดูสนุกมากครับ ตอนท้ายลุ้นทั้งในแง่แอ็กชันและดราม่า บีบคั้นอารมณ์ได้แบบสุดๆ บทสรุปก็ถือว่าสะใจในแบบของมัน จนขอยกให้เป็นหนังที่เจ๋งที่สุดของผู้กำกับ James Mangold เลยครับ

คอหนังตะวันตกสาย “ศักดิ์ศรีบนทางปืน” ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ