ค้นหาหนัง

2046 | สองศูนย์สี่หก

2046 | สองศูนย์สี่หก
เรื่องย่อ : 2046 | สองศูนย์สี่หก

เชา โม หวันกลับมาสู่ฮ่องกงและต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่เขาได้ซ่อนเร้นเอาไว้ อดีตอันเกี่ยวเนื่องกับหญิงสาวหลายคน ในช่วงนั้นบางอย่างได้เกิดขึ้นกับเขา หัวใจของเขาเย็นชา และฝังเอาไว้ซึ่งความทรงจำบางอย่างที่เลือนหาย ไม่มีใครสักคนที่จะเข้าถึงเขาได้ เขาเขียนนิยายประโลมโลกราคาถูกเพื่อประทังชีวิต และย้ายเข้ามาอยู่ที่ห้องหมายเลข 2047 และหลังจากนั้นได้ไม่นานนักก็ได้เขียนนิยายที่เขาให้ชื่อมันว่า 2046 และในเรื่องนี้ใครก็ตามที่ได้ขึ้นรถไฟที่มุ่งสู่ปลายทาง 2046 จะมีโอกาสย้อนสู่ความทรงจำแห่งอดีตที่สูญหายของตน ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นจริงหรือไม่ เพราะไม่มีใครเคยกลับมาจาก 2046

IMDB : tt0212712

คะแนน : 8



ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อนคนไทยได้ดูงานกำกับของหว่องกาไวในวงกว้างที่สุดก็เห็นจะเป็นการเข้าฉายวงกว้างของ 2046 พร้อมโปรโมตว่าพี่เบิร์ด ธงไชย แม็กอินไตย นักร้องขวัญใจชาวไทยร่วมแสดงในงานโกอินเตอร์ ก่อนที่ผู้ชมส่วนหนึ่งไปดูแล้วออกมาบ่นกันอุบว่านี่ไปดูอะไรกันมาวะเนี่ย 555

และในโอกาสที่ปัจจุบันวันนี้่ที่หนัง 2046 จะได้กลับมาฉายโรงอีกครั้งในโพรเจกต์พิเศษ The World of Wing Kar Wai’s Perspective โดยเปลี่ยนค่ายจัดจำหน่ายจาก 20th Century Fox มาเป็น มงคลภาพยนตร์ ซึ่งได้ลิขสิทธิ์ในการฉายฉบับรีมาสเตอร์ 4K ของหนังหว่องกาไวในปีนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวได้ชมจากการดู DVD มาแล้วและที่ยังกังขาคือความรู้สึกเราหลังจากได้เห็นข่าวที่ฮ่องกงกำลังจะถูกรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางคือจีนเร็วขึ้น 2046 ยังจะเป็นสถานีที่เรายังอยากจะกลับไปค้นหาความทรงจำสูญหายอยู่หรือไม่

ว่ากันถึงโครงเรื่องของ 2046 เราอาจบอกเล่าได้ไม่ง่ายนักด้วยว่ามันต้องเป็นทั้งภาคต่อจากหนังก่อนหน้าในขณะเดียวกันมันก็เป็๋นหนังเรื่องใหม่บนประเด็นเดิมอย่างความเหงาและความเสน่หาของมนุษย์อันซับซ้อนด้วยอารมณ์ความรู้สึกโดยพื้นฐานโครงเรื่องหลักหนังจะไปสานต่อชะตากรรมของ จ้าวโม่เหวิน (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่กำลังเขียนนิยายเรื่อง 2046 ว่าด้วยรถไฟในโลกอนาคตที่ผู้คนต่างมุ่งหน้าสู่สถานี 2046 แต่มีเพียงหนุ่มญี่ปุ่น (ทาคูยะ คิมูระ) ที่เลือกเดินทางออกจาก 2046 และระหว่างทางเขาก็ตกหลุมรักแอนดรอยด์สาวที่ความรู้สึกช้า (เฟย์ หว่อง) โดยไม่มีทางรู้เลยว่าเธอจะรักเขาตอบบ้างไหม

และขณะที่จ้าวโม่เหวินกำลังเขียนนิยายชิ้นเอกนี้เขาก็ได้เอาตัวไปใกล้ห้อง 2046 ที่มีความหลังฝังใจกับ เซ่าไหล่จวิน (จางม่านอวี้) ชู้ทางใจของเขาเมื่อหลายปีก่อนและได้พัวพันกับความรักของคนรอบข้างทั้งลูกสาวห้องเช่าอย่างหวังจินเหวิน (เฟย์ หว่อง) ที่ไปหลงรักหนุ่มญี่ปุ่น (ทาคูยะ คิมูระ) และ ไป่หลิง (จางจื่ออี้) สาวเอสคอร์ตที่ดันเอาหัวใจมาลงเล่นกับเขา รวมไปถึงความสัมพันธ์ที่ยากอธิบายกับ เซ่าไหล่จวิน (กงลี่) สาวที่ชื่อเหมือนชู้รักของเขาทว่าเธอกลับมีเวลาให้เขาแค่บนวงไพ่ที่สิงคโปร์ในวันที่หัวใจของเขาแหลกสลายเท่านั้น

บอกตามตรงว่าการจะประเมินคุณค่าหนังหว่องกาไวจากมุมมองและมาตรฐานปกติย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับสำหรับผม จะว่าเป็นไบแอสส่วนตัวในฐานะแฟนหว่องกาไวก็คงแค่ส่วนหนึ่งแต่เชื่อว่าหากใครได้ประจักษ์พยานดูหนังหว่องกาไวทั้งเรื่องและดูมาเกิน 5 เรื่องย่อมเห็นด้วยว่าหนังหว่องกาไวคือหนังแห่งอารมณ์หากคุณคลิกกับการดูภาพบนจอที่แช่มช้า ควันบุหรี่ลอยล่อง และวอยซ์โอเวอร์กระแทกใจหนังของหว่องกาไวก็ทำมาเพื่อคุณครับ

ดังนั้นสิ่งที่พอจะนำมาเป็นมาตรฐานได้คงเป็นการเทียบเคียงกับงานเรื่องอื่นในประวัติการทำงานของหว่องกาไว ซี่ง 2046 ก็เหมือนถูกสร้างมาเพื่อให้คนดูเทียบเคียงและท้าทายแฟนหนังไปในตัวว่าหากหนังของเขามี “สิ่งแปลกปลอม” เต็มไปหมดทั้งฉากรถไฟอนาคตที่อยู่ในนิยายที่เป็นภาพอันแปลกประหลาดในหนังหว่องและสรรพสำเนียงการพูดที่มีถึง 3 ภาษาได้แก่จีนกลาง จีนกวางตุ้ง และภาษาญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นหนังหว่องที่คอนฟลิกต์ตัวละครใหญ่โตถึงขั้นมีซีนน้่ำเน่าคุณพ่อกีดกันลูกสาวไม่ให้คบหาแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นประหนึ่งหลุดมาจากละครไทยอีกแหนะ

โดยใช้ตัวละครที่แข็งแรงที่สุดจากหนัง In the mood for love อย่างจ้าวโม่วเหวินของนักแสดงอย่างเหลียงเฉาเหว่ยในการพาคนดูไปประสบภัยขาดความอบอุ่นทางใจและแอบวิพากษ์การเมืองฮ่องกงให้ล้อไปกับเรื่องรักที่ดูกระจัดกระจายและอีรุงตุงนังนี้ผ่านเรื่องราวของคุณหวัง (หวังซัม) ชาวจีนแผ่นดินใหญ่เจ้าของห้องเช่าที่ยังคงแค้นเคืองคนญี่ปุ่นจนมาลงกับการกีดกันลูกสาวไม่ให้คบหาศัตรูที่เคยทำร้ายคนในครอบครัวของเขาแม้กาลเวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม

ซึ่งหว่องกาไวไม่เพียงเล่าเรื่องราวความขัดแย้งในประวัติศาสตร์ผ่านเรื่องราวโรแมนติกของลูกสาวเจ้าของห้องเช่าเพียงเพื่อให้เราลุ้นกับการฟันฝ่าอุปสรรคของเธอไปเท่านั้น แต่โดยที่ไม่ทันคาดคิดหรือสังเกตในการดูครั้งแรกของผมการชมครั้งนี้ทำให้จับสังเกตได้ว่าตัวละครไป่หลิงของจางจื่ออี้นั้นพูดตอบจ้าวโม่วเหวินด้วยภาษาจีนกลางหรือแมนดารินซึ่งชวนคิดไม่น้อยว่าการที่หนังโยนตัวละครที่พูดจีนคนละสำเนียง หว่องกาไวกำลังแอบทำนายอนาคตบ้านเมืองของฮ่องกงอยู่หรือเปล่า

เพราะพอไป่หลิงกับจ้าวโม่วเหวินมีสัมพันธ์กันลึกซึ้งเราจะเห็นได้เลยว่าฝ่ายชายตระหนักดีว่าตนเองและหญิงสาวไม่อาจคงความสัมพันธ์อันยั่งยืนได้ ลำพังแค่สำเนียงที่โต้ตอบไปมาด้วยภาษาจีนคนละประเภทก็ชัดเจนพอควรแล้ว แต่นี่ยิ่งมีบทสนทนาเรื่องการยืมเวลาของกันและกันมาใช้ก็อดคิดไม่ได้ว่าหว่องกาไวกำลังหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงและจีนที่ทำได้มากที่สุดก็แค่ยืมเวลากันและกันมาใช้แต่ไม่อาจรวมกันเป็นปึกแผ่นดูดดื่มดั่งคู่รักได้

และโดยปริยายเลขห้อง 2046 อันเป็นสัญลักษณ์แทนปีสุดท้ายที่ฮ่องกงจะยังได้สิทธิปกครองตัวเองเลยเหมือนเวลาที่ฮ่องกงยืมมาเพื่อค้นหาอัตลักษณ์ของตนก่อนจะถูกกลืนเข้าสู่นโยบายจีนเดียว (ซึ่งต่างจาก 1 ประเทศ 2 ระบบอันเป็นอุดมคติในวันวานยิ่งนัก) ที่สำคัญคือเวลาที่ถูกยืมอาจถูกขอคืนเร็วขึ้นอย่างคาดไม่ถึงทีเดียวซึ่งจะว่าไปก็ไม่ต่างจากความรักของตัวละครอย่างโจวโม่วเหวินที่ยืมเวลาจากคนรักชั่วคราวทั้งชู้ทางใจอย่าง เซ่าไหลจวิน ทั้ง 2 คนรวมถึงไป่หลิง ซึ่งแน่นอนว่าเวลาที่ยืมมาเขาก็ต้องคืนและชะตาก็กำหนดให้เขาต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย