IMDB : tt8482584
คะแนน : 8
หนังดัดแปลงและอ้างอิงมาจากหนังสือเชิงชีวประวัติขายดีของ "จิม เดนต์" โดยมี "ไท โรเบิร์ตส์" มาทำหน้าที่กำกับหนังและร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ อีกทั้งเขายังรับหน้าที่อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้เองด้วย หนังอาจจะมีเนื้อหาที่ไม่ได้อิมแพคหรือเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง เพราะเป็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์การกีฬาที่เคยเกิดขึ้นในแวดวงกีฬาอเมริกาฟุตบอลที่เคยเป็นสีสันที่เคยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวอเมริกันมาแล้วในอดีต แต่คนทั่วโลกอาจจะไม่ได้รู้จักเรื่องราวนี้สักเท่าไหร่นัก
แต่กระนั้น 12 Mighty Orphans ก็ถ่ายทอดออกมาได้แบบราบเรียบ เหมือนกับหนังดราม่าชีวประวัติทั่วๆ ไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นออกมาสักเท่าไหร่นัก บทหนังก็ไม่ได้คมคายมากสักเท่าไหร่ แต่ความทรงพลังในท้องเรื่องและสูตรสำเร็จของเนื้อหาประเภทนี้ ก็สามารถเป็นตัวช่วยพยุงหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้พอสมควร ชนิดที่แทบไม่ต้องทำอะไรมาก ปล่อยให้ความดราม่าเล่าเรื่องตามลำดับไปเรื่อยๆ ก็สามารถจับใจและสร้างความกินใจให้กับผู้ชมได้แล้ว
"ลุค วิลสัน" มารับบทนำในหนังเรื่องนี้ เขาต้องรับบทเป็น รัสตี้ รัสเซลล์ โค้ชฟุตบอลเด็กนักเรียนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำนานโค้ชของวงการอเมริกาฟุตบอล โดยเฉพาะกับวีรกรรมในการสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายอนาคตให้กับเด็กกำพร้าเหล่านี้ เขาก็ทำหน้าที่การแสดงของตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะคาแรกเตอร์นี้ไม่ต้องถ่ายทอดอะไรมาเช่นกัน เพราะมีความทรงพลังอยู่ในตัว
อีกคนที่มาสมทบได้สร้างความประทับใจไม่แพ้กัน ก็คือ "มาร์ติน ชีน" ในบท ด็อก ฮอลล์ ที่ใส่ไม่ยั้งและแสดงให้เห็นถึงทักษะของนักแสดงมืออาชีพได้ดี นอกจากนี้ใน 12 Mighty Orphans ยังเต็มไปด้วยนักแสดงรุ่นเก่ารุ่นใหม่มาสมทบอีกเพียบ รุ่นเก่าเก๋าเกมก็โชว์ศักยภาพได้ดี ไม่ว่าจะเป็น "โรเบิร์ต ดูวัลล์" หรือ "เวย์น ไนท์" ขณะที่รุ่นใหม่ก็น่าจับตามอง เช่น "เจค ออสติน วอล์คเกอร์" ในบทตำนานนักฟุตบอล 'ฮาร์ดี้ บราวน์" หรือ "เลวี่ ดีแลน" ในบท 'แฟร์แบงก์ส' เป็นดาวรุ่งที่ให้การแสดงในผลงานเริ่มต้นได้น่าสนใจ
โดยในภาพรวมแล้ว 12 Mighty Orphans อาจจะยังไม่ถึงกับเป็นหนังดราม่าทรงพลังระดับล่ารางวัลจากเวทีต่างๆ แต่ก็มีประสิทธิภาพที่เพียงพอในการเป็นหนังชีวประวัติน้ำดีที่เข้มข้นด้วยเนื้อหาและสอดแทรกเรื่องกีฬาเข้ามาได้อย่างเหมาะเจาะ หลายๆ องค์ประกอบยังไม่ได้สมบูรณ์แบบเพียงพอ แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรเลยสักนิดเดียว หนังกลายมาเป็นช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้เต็มๆ และยังขับพลังความหวังที่เป็นสารหลักที่ต้องการจะสื่อถึง หนังเรื่องนี้ทำให้คนดูได้เห็นชัดเลยว่า ความหวังที่เริ่มต้นตั้งแต่ยังติดลบศูนย์...มันเป็นเช่นไร